0

Your Cart

No products in the cart.
THAIGREENAGRO | ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
[agrikon_wc_ajax_search]

ดูแลคอกเล้าเป็ด เล้าไก่ ในหน้าฝนให้พ้นกลิ่นเหม็น

วันนี้เราก็จะมาพูดคุยกันถึงเรื่องของการเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ปีกและการดูแลคอกเป็ด เล้าไก่ ในหน้าฝนนั้นทำอย่างไรไม่ให้มีกลิ่นเหม็น
การดูแลคอกเล้า หมู เห็ด เป็ด ไก่ ให้พ้นจากกลิ่นเหม็น ให้ถูกสุขลักษณะอนามัย ก็เป็นเรื่องที่เราจะเอามาบอกเล่า แนะนำวิธี เทคนิคต่างๆในการที่ทำให้กลิ่นไม่ไปกวนเพื่อนบ้าน ครอบครัว แล้วก็รวมถึงการรักษามลภาวะ เพราะว่าในช่วงที่มีฝนตก มีน้ำท่วม ชื้นแฉะ แม้ว่าในบางพื้นที่หรือบางฟาร์มมีการบริหารจัดการที่ดีรอบๆก็มีความชื้นความแฉะหรือแม้แต่ข้างในอาจจะมีการให้น้ำที่มีการหก กระฉอก หรือเวลาคนเดินเข้าไปบริหารจัดการ คนงานเดินย่ำขี้เลน หรืออะไรต่างๆที่ทำให้มันเกิดแมลงวัน เกิดเชื้อโรคต่างๆเข้ามาในฟาร์ม ก็จะส่งผลกระทบต่อประชากรของไก่ ของเป็ด ทีนี้ก็มาดูว่ากลิ่นนั้นก็เกิดกระบวนการมีสิ่งที่บูดเน่า สิ่งที่บูดเน่าในคอกเป็ด เล้าไก่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหาร อาหารของเป็ดไก่ไม่ว่าจะเป็นข้าว เป็นรำ เป็นโปรตีน เป็นหัวเชื้ออะไรต่างๆ ถ้าขาดการบริหารจัดการที่ดีก็จะทำให้สิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดการบูดเน่าโดยเฉพาะฟาร์มที่มีการบริหารจัดการทำความสะอาดไม่สม่ำเสมอ ไม่มีการเก็บกวาด ขี้ไก่ ขี้เป็ด หรือจะรวมไปถึงขี้หมูด้วย สิ่งต่างๆเหล่านี้มันทำให้เกิดมลภาวะที่กระทบตัวของสัตว์เลี้ยงหรือไก่ หรือเป็ด หมู วัว ควาย ได้ด้วยเช่นเดียวกันเพื่อนๆอย่าคิดนะครับว่าตัววัว ควาย ต่างๆ ตัวโตๆ ในฟาร์มวัว ฟาร์มควาย หรือฟาร์มของม้าตัวโตๆ มันก็แพ้กลิ่น แก๊ส พวกแอมโมเนีย แก๊สแอมโมเนีย แก๊สไข่เน่า แก๊สมีเทน ตัวแอมโมเนีย มันเกิดจากกระบวนการย่อยสลายของจุลินทรีย์ในอดีต เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู เลี้ยงเป็ดแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน เขาจะใช้ขี้เลื่อย ใช้แกลบ เอามาปูทับ ขี้เลื่อยจะเป็นตัวสร้างความสมดุลของจุลินทรีย์ จุลินทรีย์เขาต้องการย่อยขี้เลื่อย ขี้กก ก็ต้องการใช้พลังงานจากไนโตรเจน เขาจะไปย่อยพวกขี้ไก่ขี้เป็ดเพื่อจะมาสร้างประชากร สร้างอาหาร แล้วก็มาย่อยสลายขี้เลื่อย ทำให้ของเสียที่อยู่ในรูปขี้เป็ด ขี้ไก่ และอาหารที่ตกค้าง ถูกย่อยสลายไปอย่างรวดเร็ว บางคนก็คิดว่าการที่กลิ่นนั้นหมดไปเพราะว่าไปได้จากการที่ขี้เลื่อยหรือแกลบ ไปดูดซับกลิ่น จริงๆแล้วไม่ใช่ทั้งหมด ไม่ใช่แบบนั้น 100 % แต่เป็นกระบวนการย่อยสลายของจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียต่างๆ คือเขาต้องใช้โปรตีน ตัวอย่างแบบนี้ถ้าเห็นได้ง่ายๆคือกรณีที่ข้าวเมาตอซังหรือเมาหัวซังหรือใครเอาปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกสดๆ ไปใส่โคนต้นไม้ใหญ่ๆภายในไม่กี่สัปดาห์ต้นไม้ใหญ่ๆ จะเหลือง เพราะว่าเขาไปแย่งไนโตรเจนที่โคนต้น ข้าวเมาตอซังก็ตอซังที่ตก เวลาเขาย่ำหรือตีนา ตรงมุมคันนา รถแทรกเตอร์ เข้าไปตรงมุมคันนาไม่ได้ ถ้าเป็นคนขยันน้อย หรือคนขี้เกียจก็ไม่ใช้ใช้เจาะไปสับมุมคันนาตรงนั้นจะมีตังซังสดอยู่เวลาหว่านเมล็ดพันธ์ข้าวเปลือกไปอยู่ตรงมุมคันนา ข้าวมุมคันนาก็จะเหลือง เหลืองเพราะว่ากระบวนการย่อยสลายจุลินทรีย์มีการใช้ไนโตรเจนในปริมาณมากเพื่อไปย่อยสลายตอซังตรงนั้นที่มันตกค้างอยู่เวลาข้าวเมาหัวซังเหลืองชาวนาก็จะหว่านปุ๋ยยูเรียกระทุ้งอีก พอกระทุ้งไปเสร็จปุ๊บผ่านไป 3-4 วันข้าก็เขียวอวบอ้วน หนอนมาอีก ก็เป็นการแก้แบบใช้เงิน กำไรก็จะหายไป กลับมาที่คอกเป็ด เล้าไก่ แบบภูมิปัญญาชาวบ้าน การที่เราใช้ขี้เลื่อย ใช้แกลบ เป็นตัวช่วยก็ถือว่าทำได้ดี เราจะช่วยลดมลภาวะ ลดกลิ่นที่ไปกระทบกับเพื่อนบ้าน
การประกอบอาชีพเราจำเป็นต้องพิถีพิถันคอยตรวจสอบคอกหรือเล้าเป็ด เล้าไก่ เล้าหมู ช้าง ม้า วัว ควาย ถ้าได้เลี้ยงในปริมาณมากๆ อาจจะต้องดู ต้องใช้ บางคนก็ใช้จุลินทรีย์ที่หมักกับกากน้ำตาล เช่น จุลินทรีย์จากสัตว์เคี้ยวเอื้อง จุลินทรีย์ขี้ควาย จุลินทรีย์หน่อกล้วย จุลินทรีย์อีเอ็ม ในงานนี้ถือว่าใช้ได้ แต่ถ้าเป็นงานเลี้ยงกุ้งเลี้ยงปลาไม่ถือว่าดี ก็จะช่วยบรรเทาเบาบางในเรื่องของกลิ่น แต่ถ้าเป็นฟาร์มเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย ที่ไม่มีเวลาดูแล ผลกระทบด้านสุขอนามัย ด้านสิ่งแวดล้อม หรือ มิตรภาพ กับ เพื่อนบ้านก็จะแย่ แต่ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือเรื่องของสัตว์ที่เรานำมาเลี้ยงเพื่อขาย มันจะตาย เมื่อตายแล้ว เราลงทุนลงแรง เงินทั้งหลายที่ทุ่มลงไปมันก็จะขาดทุน ทำไมขาดทุนเพราะว่าแก๊สแอมโมเนีย เวลามันระเหย จากของเสียที่พื้นคอก โดยเฉพาะยิ่งมีความชื้น ยิ่งมีปฏิกิริยาที่รุนแรง แอมโมเนีย ไนไตรท์ ถ้ามันเข้มข้นมากเกินไป ก็จะทำให้ไก่อาจจะตาบอด วัว ควาย ตัวโตๆเจอแก๊สแอมโมเนียระเหยเข้าไปในตา น้ำตาก็ไหล แอมโมเนียเวลามันระเหยขึ้นไปโดนตา มันรวมตัวกับน้ำตาเวลาที่มันระคายเคือง แอมโมเนียรวมตัวกับน้ำกลายเป็นด่าง ก็มีโทษในเรื่องของการทำให้เกิดการระคายเคือง แอมโมเนียระเหยมาเจอเยื่อบุในตา ในโพรงจมูกที่มันอ่อนนิ่ม ทำให้บวม แดง และเกิดการระคายเคืองต่างๆ กลายเป็นด่าง เหมือนเอาด่างไปป้ายตา เบื้องต้นทำให้เจ็บปวด ไก่ถ้ายั่วบุในโพรงจมูก เกิดอาการเครียดจิก ตี ทำให้หัวถลอกปอกเปิก เกิดแผล เกิดโรคต่างๆตามมา ถ้าผู้เลี้ยง ไม่เก๋า ไม่เก่ง คิดว่าเป็นหวัดอีก ทีนี้ก็ต้องเสียเงินในการที่ให้เขามาฉีดวัคซีน ก็ยิ่งทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอีก ฉีดวัคซีนแล้วไม่จบอีก 1-2 อาทิตย์ก็กลับมาเป็นอีกที่เป็นแบบนั้นเพราะต้นเหตุอยู่ที่พื้นของคอกไก่ เล้าเป็ด ที่มันมีของเสียทับถมเพราะฉะนั้นการที่เราจะดูแลแก้ปัญหาความสะอาดที่คอกไก่ เล้าเป็ด คอกวัว คอกควาย ความจริงสามารถนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับสัตว์พวกสัตว์เลี้ยงสวยงามพวกหนูแก๊บบี้ พวกงู หรือสัตว์ตระกูลพวกเลื้อยคลานทั้งหลายที่มีกรง เลี้ยงแล้วมีพื้นคอก ที่สกปรก บางทีขี้เลื่อยกับขี้กกไม่พอ วันนี้ในเรื่องของการแนะนำก็คือผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่าสเม็คไทต์หรือซีโอฟาร์มหรือไคลน็อพติโลไลท์ เขาเป็นหินลาวา หินแร่ภูเขาไฟที่สุกแล้ว สุกแล้วหมายความว่าเขาเป็นหินที่อยู่ใต้เปลือกโลกลึกลงไปมากกว่า 50 กิโลเมตร ลงไปใกล้กับแกนโลก อุณหภูมิ 9200 องศาเซลเซียส มันร้อนจนหินต่างๆแร่ต่างๆหลอมละลายรวมกันเป็นแมกม่า แมกม่าคือหินที่หนืด เหลว อยู่ใต้เปลือกโลก เจอแรงอัด แรงต้าน มหาศาลใต้พื้นโลก เกิดการเคลื่อนย้าย ถ่ายเท แล้วดูว่าตรงไหนมันมีรู มีจุดเปราะบาง ตรงรอยต่อ แผ่นทวีปก็ระเบิดขึ้น พอระเบิดเป็นลาวา ตรงเป็นลาวาเวลาระเบิดขึ้นมา ความร้อนมหาศาลกับความบางเบาเหนือพื้นโลกเพียง 1 ชั้นบรรยากาศ มันทำให้ไม่มีอะไรไปอัดมันก็บวมพอง ก๊าซกับไอน้ำมันก็ระเหยออก แล้วมันก็ค่อยๆเย็นตัวลง ก็มีรูพรุนมหาศาลในโพรงอากาศที่มันระเหยไป รูพรุนของหินเดือด หินจุดเหล่านี้ เวลาเรานำมาบดเป็นผงละเอียด มันก็มีรูพรุนที่สามารถจับกลิ่น จับแก๊สต่างๆได้ดี ก็จะมาช่วยเสริมการทำให้ขี้เลื่อย ขี้กก มีประสิทธิภาพในการทำให้กลิ่นเหม็นลดน้อยถอยลงไปได้เยอะ ขี้เลื่อยกับขี้กกมันช่วยได้ในระดับหนึ่งกับจุลินทรีย์ที่มาย่อย แต่ตัวหินเดือด หินลาวา เขาจะจับโดยตรงเลยเพราะว่ารูพรุน ที่เราเรียกว่า C.E.C หรือค่าความสามารถในการจับตรึงหรือแลกเปลี่ยนประจุ เวลาเกิดแก๊สแอมโมเนียมันอยู่ในรูปของ NH4+ ตัวหินภูเขาไฟจะช่วยจับแก๊ส กลุ่มของแก๊สไข่เน่า แก๊สมีเทน เกิดแก๊สเกิดกลิ่น ตัวนี้สามารถจับกลิ่นได้ค่อนข้างดี ดีมากจนบางคนเอาไปโรยในรองเท้า ก็แก้กลิ่นเหม็นของรองเท้า ห้องน้ำ ห้องส้วม นำไปโรยแล้วล้างน้ำเปล่าออกหรือใส่ในชักโคก กลิ่นต่างๆก็จะหายไป ในต่างประเทศเขาเรียกหินแร่ภูเขาไฟว่าซีโอไลท์ Zeolite เขาสกัดเกรดพิเศษกิโลเป็นหมื่นเป็นแสน ส่วนหนึ่งใช้ในการกลบฝังกากกำมันตภาพรังสี กากนิวเคลียร์ กากปรมณู เวลาขุดหลุมกลบฝังก็จะต้องมีพวกซีโอไลท์กันกำมันตภาพรังสี เมื่อเราใช้พวกหินแร่ภูเขาไฟในฟาร์มไก่ เป็ด ช้าง ม้า วัว ควาย สุขภาพของสัตว์เลี้ยงที่เราเลี้ยงหรือแม้กระทั่งในปลากัดก็สามารถที่จะใช้ได้ หรือในสัตว์ตระกูลเลื้อยคลานที่เอามาเลี้ยงเป็นสัตว์สวยงาม ก็จะทำให้สุขภาพของสัตว์ที่เราเลี้ยงมีความสุข กินอาหารได้เยอะ ถ้าเป็นหมู เป็ด ไก่ ก็ทำให้โตเร็ว ถ้าเลี้ยงหมูไม่ต้องไปใช้สารเร่งเนื้อแดง เพราะว่าเวลาแอมโมเนียหรือก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟต์มันมีน้อย ออกซิเจนในเลือดในการสร้างเม็ดเลือด เม็ดเลือดแดงมันมากขึ้น เนื้อก็จะแดงชมพูแบบธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้สารเร่งเนื้อแดง ถ้าเราปล่อยปะละเลย แก๊สเหล่านี้มันมีโทษ
มนตรี บุญจรัส ชมรมเกษตรปอลดสารพิษ www.thaigreenagro.com

×