0

Your Cart

No products in the cart.
THAIGREENAGRO | ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
[agrikon_wc_ajax_search]

รู้ทันกระแสปลูกต้นไม้เพิ่มคาร์บอนเครดิตสร้างรายได้ประชาชนมีเฮ!

รู้ทันกระแสปลูกต้นไม้เพิ่มคาร์บอนเครดิตสร้างรายได้ประชาชนมีเฮ!

ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสสื่อในโลกโซเชียลออนไลน์ค่อนข้างมีอิทธิพลต่อการสร้างรายได้ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการวางกลยุทธในด้านการตลาดของแต่ละบริษัทที่ต้องการกระจายและเพิ่มรายได้ในหลากหลายช่องทาง เช่น ยูทูป (Y0utube) ติ๊กต๊อก (Tiktok) เฟซบุ๊ค (Facebook) อิสตาแกรม (Instagram) เลม่อน8 (Lemon8) และเว็บไซต์ต่างๆ ไม่ใช่แค่บริษัทที่สามารถทำการตลาดแบบนี้ได้ บุคคลประชาชนทั่วไปก็สามารถสร้างกระแสและหารายได้ผ่านช่องทางนี้ได้ไม่ต่างกัน เพียงแค่คุณ กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก กล้าน้อมรับในกระแสเชิงลบ และทำความเข้าใจกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเอง พอคุณอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วทางบริษัทไทยกรีนอะโกร ขอเป็นอีกกระบอกเสียงหนึ่งที่จะช่วยให้คุณทันกระแสในโลกของ “การเกษตรสมัยใหม่” ที่จะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมาปลูกต้นไม้แถมยังช่วยสร้างรายได้ได้อีกด้วยนั้นก็คือ “การกักเก็บคาร์บอนเครดิต”

                “ก่อนอื่นเลยเราต้องทำความรู้จักและเข้าใจกันก่อนว่าคาร์บอนเครดิตคืออะไร? แล้วสร้างรายได้อย่างไร? เป็นการเกษตรสมัยใหม่อย่างไร? ”  แน่นอนว่า วันนี้! ทางบริษัทไทยกรีนอะโกรมีคำตอบมาให้ทุกคนที่มีความสนใจอย่างแน่นอนค่ะ

สาระน่ารู้คาร์บอนเครดิตในแบบฉบับไทยกรีนอะโกร                              

                การกักเก็บคาร์บอนเครดิตในดิน (Soil carbon seguestration) เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงรูปก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศมากักเก็บไว้ในดิน เพื่อลดการเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศจากกระบวนการสังเคราะห์แสงและนำคาร์บอนไปเก็บตามส่วนต่างๆของต้นไม้ ทั้งส่วนที่อยู่เหนือพื้นดินได้แก่ ลำต้น 62% กิ่ง 11% และใบ 1%  และส่วนที่อยู่ใต้ดินได้แก่ ราก 26% ด้วยเหตุนี้เอง “ดิน” จึงต้องมีศักยภาพเพราะพืชและต้นไม้ทุกชนิดส่วนใหญ่ดูดใช้ธาตุอาหารเพื่อเจริญเติบโตจากดินเป็นหลัก อีกทั้งการปลูกต้นไม้กักเก็บคาร์บอนเครดิตยังช่วยลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศ (Global warming)  อีกด้วย และคาร์บอนในดินยังช่วยส่งเสริมให้เม็ดดินมีความเสถียร ส่งเสริมการระบายน้ำในช่องของอนุภาคดิน  และดินยังมีประสิทธิภาพในการอุ้มน้ำที่ดียิ่งขึ้น 

ในส่วนคำถามที่ตามมา...แล้วเราสามารถสร้างรายได้ได้อย่างไร ?

                ปัจจุบันประเทศไทยมีโครงการลดก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมของมนุษย์ภาคสมัครใจ(T-VER) ในภาคป่าไม้ ภายใต้การกำกับขององค์การบริหารการจัดการก๊าซเรือนกระจก(องค์การมหาชน) หรือ อบก.(TGO) เพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจก และสามารถนำปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้น หรือเรียกว่า “คาร์บอนเครดิต” ไปชดเชยปริมาณคาร์บอนที่ปลดปล่อยในองค์กรณ์ต่างๆหรือขายเพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้ปลูกได้อีกด้วย โดยการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในปัจจุบันมีการขึ้นทะเบียนกับทางภาครัฐเพื่อกำหนดขั้นตอนในการปฏิบัติและทำการประเมินมวลชีวภาพเหนือพื้นดิน (Aboveground biomass) และมวลชีวภาพใต้พื้นดิน (Belowground biomass) ด้วยเครื่องมือที่มีการพัฒนาและทันสมัย เพื่อส่งเสริมและกระจายรายได้ให้กับประชาชนและองค์กรในการรณรงค์โลกร้อนไปพร้อมกับการสร้างรายได้จาการเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยการปลูกต้นไม้  ในส่วนตรงนี้เราจะมายกตัวอย่างต้นไม้ที่มีศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอนที่แตกต่างกันนะคะ ยกตัวอย่างเช่น

-                   ต้นกระถินณรงค์ สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ 3.48 ตัน คาร์บอน/ไร่/ปี

-                   ต้นสัก สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ 1.72 ตัน คาร์บอน/ไร่/ปี

-                   ต้นพยูง สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ 1.36 ตัน คาร์บอน/ไร่/ปี

                นอกจากนี้ยังมีต้นไม้อีกหลากหลายชนิดที่มีศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอนเครดิตด้วยเช่นกัน แต่เราเพียงแค่ยกตัวอย่างมาบางส่วนเท่านั้น เพื่อจะได้ให้ผู้อ่านเห็นภาพและมีความเข้าใจในส่วนเนื้อหาที่ไม่กว้างจนจับประเด็นแทบไม่ได้ เราจึงเน้นเนื้อหาที่ครบถ้วนและสัดส่วนองค์ความรู้ที่เต็มเปี่ยมเพื่อตอบโจทย์ในทุกมุมมองที่ทันสมัย

                ในส่วนของบริษัทไทยกรีนอะโกรจึงอยากช่วยผลักดันและช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยมีพื้นที่สีเขียวที่เพิ่มขึ้นธรรมชาติที่ปลอดสารพิษใช้ปุ๋ยเคมีให้น้อยลงเพื่อลดต้นทุนในการซื้อวัสดุปลูกและดูแลต้นไม้อีกทั้งเราพร้อมที่จะช่วยให้คำแนะนำในการใช้วัสดุปลูกและการปลูกต้นไม้ให้ได้ประสิทธิภาพและยั่งยืน ด้วยการเตรียมดินในแบบของไทยกรีนอะโกรโดยการใช้ ปุ๋ยอินทรีย์ ทีจีเอโกลด์ ในการเตรียมดินในหลุมสำหรับไว้ปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มช่องว่างอากาศในดิน ช่วยให้ดินสามารถเก็บธาตุอาหารและอุ้มน้ำได้มากขึ้น ส่งเสริมให้พืชมีการดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น แต่ในส่วนตรงนี้ แนะนำให้ใช้ควบคู่กับ ภูไมท์ซัลเฟตเหลือง สำหรับเตรียมดินปลูกก้นหลุมและเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นด้วยการเสริมปุ๋ยเคมีในส่วนของไนโตรเจน เพราะภูไมท์ซัลเฟตเหลืองมีธาตุอาหารหลายตัวแต่ไม่มีไนโตรเจนนั้นเอง แต่จุดเด่นของภูไมท์ซัลเฟตเหลือง คือ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพดิน เช่น ดินกรด ดินด่าง ดินทราย ดินลูกรัง ดินเหนียว หรือดินอะไรก็ได้ ดังนั้นจะใช้สำหรับในการเตรียมดินเพื่อให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์และส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชให้มีประสิทธิภาพนั้นเอง

หากมีข้อส่งสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ จันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 08:00-17:00 น.ช่องทางติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  www.thaigreenagro.com  Tel.0-2986-1680,092-774-4905

 

บทความโดย คนึงนิจ  หอมหวล

ตำแหน่งนักวิชาการเกษตรบริษัทไทยกรีนอะโกร (ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ)

(อดีตนักศึกษาภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)

Line Official: https://lin.ee/3M1NXzf
ช่อง Youtube: https://bit.ly/3o1LAhK
เพจ Facebook: Thai Green Agro
Call Center: 084-5554205-9
ฝ่ายวิชาการ : 02-9861680-2
ไอดีไลน์: tga001-tga004
เว็บไซต์: www.thaigreenagro.com

My wishlist

Product name Unit price Stock status
No products added to the wishlist
×