ข่า
เป็นพืชในตระกูลเดียวกับขิง มีลำต้นหรือที่เรียกว่าเหง้าอยู่ใต้ดินเป็นแนวนอน
เป็นไม้ล้มลุก เป็นพืชสมุนไพรที่นำมาใช้ในการประกอบอาหาร ข่า เป็นพืชท้องถิ่น
ปลูกง่าย นิยมปลูกในทุกครัวเรือนของบ้านในประเทศไทย ข่า เป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่ง
สามารถหาซื้อได้ตามตลาด และสามารถสร้างรายได้แก่ผู้ปลูก ทำให้เกษตรกรหันมาปลูกกันจำนวนมาก
แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ข่านั้นชอบดินร่วนซุย มีความชื้น แต่ไม่ชอบน้ำขัง
ถ้ามีน้ำขังมากๆจะเกิด โรคหัวเน่า เกิดจากเชื้อPhytophthora
เชื่อโรคนี้ มักจะพบในบริเวณดินที่ระบายน้ำได้ยาก จะสร้างความเสียหายให้เกษตรกรผู้ปลูก
ข่าเป็นจำนวนมาก ลักษณะอาการ ถ้าเกิดกับต้นยังเล็กจะทำให้รากเป็นรอยช้ำสีน้ำตาลและเน่า
ต้นจะเหี่ยวเฉา ถ้าเกิดกับหัวจะทำให้หัวเน่าอย่างรวดเร็ว และมีกลิ่นเหม็น
ใบเหี่ยวแล้วร่วงถ้าเกิดรุนแรงต้นจะตาย การแก้ปัญหานี้สำหรับผู้เขียน แนะนำว่าให้ใช้
อินดิวเซอร์ INDUCER (ไตรโคเดอร์ม่า ) จุลินทรีย์ชีวภาพ
รักษาโรครากเน่าโคนเน่า ใบจุด ใบด่าง ใบดำ โรคกล้าเน่ายุบ โรคเน่าคอดิน โรคเหี่ยว
ผสมในอัตรา 25 -50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นให้ครอบคลุมพื้นที่แปลงเพาะปลูกหรือผสมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก
50 ส่วน ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก่อนนำไปใช้ โดยใช้รองก้นหลุมก่อนปลูกหรือโรยบางๆ
ให้ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูก โดยใช้ทุกๆ 1-2 เดือน เพียงแค่นี้ก็จะลดปัญหาหรือกำจัด
โรคหัวเน่า ให้หมดไปจากแปลงเพาะปลูกข่าหากเกษตรกรท่านใดสนใจหรือต้องข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดได้ที่ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
เขียนและรายงานโดย ทีมงานชมรมเกษตรปลอดสารพิษ
สอบถามเพิ่มเติมที่ 02-9861680-2 หรือผู้เขียนบรรเจิด ยิ่งวงษ์(ฝ่ายส่งเสริมการตลาดภาคกลาง)
092-7744902Hotline
สายด่วน 084-5554205 -9 หรือ @thaigreenagro
