ปัจจุบันคนนิยมปลูกต้นไม้เพื่อประดับตกแต่งกันอย่างกว้างขวาง
ไม่ว่าจะเป็นการจัดสวนในบ้าน ปลูกในคอนโด การจัดสวนตามพื้นที่สาธารณะหรือตามองค์กรต่างๆ
มากมาย ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีการปลูกพืชก็ต้องมีการดูแลรักษาตามมา โดยเฉพาะในเรื่องของโรคศัตรูพืช
เช่น หนอน แมลง เชื้อราต่างๆ
ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้แก่ต้นไม้ของเราได้ไม่มากก็น้อยหรือบางครั้งอาจทำให้ตายได้
เราปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงา ร่มรื่น สวยงาม หรือปลูกไว้เพื่อรับประทาน
และที่สำคัญต้นไม้ยังสามารถช่วยฟอกอากาศ ดักจับฝุ่นละออง
สำหรับบุคคลที่มีบ้านอยู่ในเมือง หรือมีพื้นที่ในการปลูกสามารถปลูกต้นไม้รอบบ้านเพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากบริเวณโดยรอบได้
ทั้งสามารถควบคุมอุณหภูมิ ความชื้นในอากาศ และป้องกันลม ทั้งนี้ควรศึกษาลักษณะต้นไม้ร่วมด้วย
สำหรับการดูแลรักษา การป้องกันและการกำจัดศัตรูพืช มีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมากมาย
ทั้งปุ๋ยบำรุงดูแลรักษา สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืชๆ ต่าง ซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วนมากมักจะเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายตัวผู้ใช้และคนรอบข้าง
อาจไม่ส่งผลเสียอย่างฉับพลัน แต่จะมีผลกระทบในระยะยาวแน่นอน
ถ้าหากมีการสูดดมเข้าไปเรื่อยๆ และสารเคมียังสามารถตกค้างอยู่ในดินได้อีกด้วย
ทำให้อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืชในอนาคต ศัตรูพืชที่สำคัญ เช่น หนอน
แมลง เชื้อราต่างๆ สามารถป้องกันและกำจัดได้ด้วย อินดิวเซอร์ แบคเทียร์
และบูเวเรีย เป็นสารชีวภัณฑ์ที่มีการพัฒนามาจากเชื้อจุลินทรีย์ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารพิษ
1.
อินดิวเซอร์ เป็นเชื้อจุลินทรีย์ไตรโคเดอร์ม่า แอสเพอร์เรียลลัม (Trichoderma asperellum) เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำลายโรคพืชหลายชนิด
โดยเฉพาะเชื้อราที่อยู่ในดิน เช่น โรครากเน่าโคนเน่า โรคเน่าคอดิน
โรคกล้าไหม้ ใบจุด ใบดำ
โดยการเข้าทำลายของเชื้อราชนิดนี้ จะเริ่มโดยการแย้งอาหารจากเชื้อโรคพืช
จากนั้นจะสร้างเส้นใยแทงเส้นใยโรคพืช สร้างสารพิษ และน้ำย่อยฆ่าทำลายเชื้อโรคพืช อัตราการใช้
150 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร เริ่มฉีดพ่นเมื่อพบการระบาดของโรคและพ่นซ้ำทุกๆ 7
วัน
2. แบคเทียร์ เป็นเชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ทูริงเยนซิส ซับสปีชีส์ เคอร์สตากี้ (Bacillum thuringiensis subsp. kurstaki) เป็นเชื้อจุลินทรีย์ปราบ เช่น หนอนกอ หนอนหนังเหนียว หนอนใยผัก หนอนชอนใบ ฯลฯ เมื่อกินเข้าไปจะทำให้หนอนเป็นอัมพาต หยุดกินอาหาร เลือดเป็นพิษ และตายภายใน 5-7 วัน อัตราการใช้ 100 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ควรฉีดพ่นในขณะที่หนอนยังมีขนาดเล็ก
3.
บูเวเรีย บัสเซียน่า (Beauveria bassiana) เป็นเชื้อจุลินทรีย์ชีวภาพปราบเพลี้ย
ทำลายทั้งระยะตัวอ่อนและตัวเต็มวัย เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไฟ ไรแดง
อันเป็นพาหะของเชื้อไวรัส เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล หนอนด้วง ด้วงเจาะคอปาล์ม โดยขั้นตอนการทำลายของเชื้อจุลินทรีย์นั้นจะแทรกเข้าสู่ตัวของหนอน
แมลง ผ่านทางเนื้อเยื่ออ่อน ช่องทางการหายใจ ทวารหนัก
เมื่อความชื้นเหมาะสมกับการงอกของสปอร์เชื้อรา
สปอร์จะงอกและเจริญเติบโตสร้างเส้นใยมากมายทำให้แมลงตาย
จากนั้นสปอร์แทงทะลุผนังลำตัวของแมลงออกมาแพร่กระจายไปตามลม ฝน หรือติดตัวแมลง
เชื้อจึงสามารถขยายพันธุ์ต่อไป อัตราการใช้ 80 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นเมื่อพบการระบาดของแมลง
การใช้เชื้อจุลินทรีย์ทั้ง 3 ชนิด ควรฉีดพ่นในเวลาเช้าตรู่หรือช่วงเย็น
เนื่องจากเป็นสารชีวภัณฑ์ประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิต แสงแดดจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเชื้อลดลง
โดยในทางทฤษฎีไม่ควรใช้จุลินทรีย์ร่วมกัน เนื่องจากเชื้อราบางชนิด
จัดเป็นเชื้อราปฏิปักษ์ (Antagonistic fungi)
ต่อกัน แต่ในทางปฏิบัติชมรมเกษตรปลอดสารพิษของเราแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทั้ง 3
ตัวร่วมกันได้ จากประสบการณ์การทำงานภาคสนามกับเกษตรกรมาเกือบ 20 ปี ในอดีตเราแนะนำให้เกษตรกรฉีดพ่นทีละตัว
ทำให้ต้นทุนทางด้านการจ้างแรงงานเพิ่มสูงขึ้น และการฉีดแต่ละเชื้อต้องเว้นระยะหลายวัน
ซึ่งเป็นการเสียเวลาอาจทำให้ควบคุมการระบาดของโรคศัตรูพืชได้ไม่ทันท่วงที ทางชมรมของเราจึงได้ลองทดสอบนำผลิตภัณฑ์มาทดลองร่วมกัน
ผสมเชื้อไปในถังเดียวกัน แล้วฉีดพ่น
พบว่าการสูญเสียของจุลินทรีย์ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกันอยู่ในระดับที่ยอมรับได้
โดยเชื้อที่เหลือแต่ละเชื้อก็จะไปกินอาหารของตัวเอง ซึ่งก็มากและเพียงพอต่อการยับยั้งและป้องกัน
ทั้งยังช่วยลดต้นทุนการจ้างแรงงาน และสามารถควบคุมการระบาดของโรคและแมลงได้อย่างทันท่วงที
การปลูกต้นไม้แน่นอนว่าต้องมีการพบเจอกับศัตรูพืชที่จะสร้างความเสียหายและทำลายต้นไม้ ทำให้ความสวยงามลดลง ผลผลิตเสียหาย หรืออาจทำให้ตาย หากการใช้สารเคมีแล้วมีผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ลองหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารพิษเพื่อความปลอดภัยและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม โดยชมรมเกษตรปลอดสารพิษของเรามีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรมากมายที่อยากจะนำเสนอ ทั้งด้านการปรับปรุงดิน น้ำ ด้านปศุสัตว์ การป้องกันกำจัดศัตรูพืช และปุ๋ยบำรุงต่างๆ หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการปรึกษาปัญหาด้านการเกษตรปลอดสารพิษติดต่อสอบถามได้ที่ www.thaigreenagro.com , Line : @thaigreenagro, โทรศัพท์ 0-2986-1680 , 084-555-4207
บทความโดย นางสาวนิจวรรณ แสนดี
ตำแหน่งนักวิชาการเกษตร
บริษัทไทยกรีนอะโกร จำกัด
(อดีตนักศึกษาภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์)