NULL
ยูคาลิปตัสที่ปลูกในประเทศไทย มิใช่แต่จะรอเวลา 4-5 ปี จึงจะมีรายได้รอบหนึ่งจากการตัดต้นไม้ขาย การปลูกยูคาลิปตัสแบบเว้นที่ห่างกันพอให้ปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ถั่ว งา มันสำปะหลัง ก็ทำให้มีรายได้ส่วนหนึ่งจากพืชไร่ เป็นรายปีเช่นกัน การปลูกยูคาลิปตัสบนคันนาเป็นการเพิ่มอินทรียวัตถุแก่นาจากใบยูคาลิปตัสที่ร่วงหล่นลงในนานั้น และ 4-5 ปี ก็จะมีรายได้เป็นก้อนจากการขายไม้ด้วย แต่ในอนาคตหากมีการเตรียมการที่ดีเราสามารถพัฒนาสวนป่าไม้เพื่อเยื่อกระดาษให้เป็นสวนเห็ดที่จะเก็บเห็ดผึ้ง เห็ดละโงกขาว มาเพื่อเป็นอาหาร และหรือขายเป็นรายได้ด้วย
ต้นกล้ายูคาลิปตัสและกระถินเทพา ราคา 2.50-3.00 บาท เมื่อซื้อที่เรือนเพาะชำของผู้ผลิตกล้าไม้แต่ละแห่ง (0-3461-5040) ต้นกล้าเหล่านี้ทั้งหมดยังไม่มีการเพาะเชื้อเห็ดไว้ที่ราก เมื่อนำไปปลูกลงแปลงจะค่อย ๆได้รับเชื้อเห็ดราเข้าไปอาศัยที่รากแบซิมไบโอลิส คือได้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน โดยทั่วไปพบว่า เห็ดปะการังสีดำ หรือเธเรฟฟอร่า จะเป็นเห็ดแรก ๆ ที่เข้าไปอยู่ร่วม โดยเส้นใยเห็ดเจริญพันธุ์อยู่รอบ ๆราก คล้ายใยสำลีบาง ๆ เส้นใยเห็ดสามารถใช้สิ่งขับถ่ายที่ออกมาจากรากเป็นอาหารได้ขณะเดียวกันสิ่งขับถ่ายจากเส้นใยเห็ดราก็เป็นอาหารบางส่วนที่รากพืชดูดขึ้นไปใช้ได้ น้ำย่อยของเห็ดยังช่วยย่อยสารอินทรีย์โดยรอบให้สายตัวมีขนาดเล็กลงจนรากดูดไปใช้ประโยชน์ได้ เส้นใยราจับหรือซึมซับไอน้ำได้ดี และผ่านต่อน้ำไปที่รากพืช ยูคาลิปตัสจึงทนแล้งเก่งแต่ไม่ใช่ดูดน้ำมากกว่าพืชธรรมดา
ที่มา : อาจารย์ดีพร้อม ไชยวงศ์เกียรติ, ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์